บทที่ 2 หลักการเขียนโปรแกรม


หลักการเขียนโปรแกรม

หลักการเขียนโปรแกรม

          Visual Basic อาศัยหลักการพัฒนาโปรแกรมแบบเชิงวัตถุ (Object Oriented Programming : OOP) ใช้หลักการเขียนโปรแกรมแบบ Event Driven Programming นั่นคือ โปรแกรมจะทํางานตาม เหตุการณ์ (Event) ที่เกิดขึ้น ซึ่งแนวคิดนี้จะมองการทํางานแต่ละส่วนของโปรแกรมเป็น Object ไม่ว่าจะเป็น หน้าจอของโปรแกรมที่แสดงในลักษณะของหน้าต่าง หรือเรียกอีกอย่างว่า ฟอร์ม (Form) คอนโทรลที่ประกอบ กันเป็นหน้าจอการทํางาน เช่น เมนูคําสั่ง ปุ่มคําสั่ง ช่องรับข้อความ เป็นต้น การเขียนโค้ดคําสั่งให้กับ Object ต่างๆ ที่ปรากฏอยู่บนฟอร์ม จะพิจารณาว่าแต่ละ Object มีเหตุการณ์อะไรเกิดขึ้นบ้าง แล้วจึงเขียน โค้ดคําสั่ง เพื่อตอบสนองการทํางานต่อเหตุการณ์นั้น โดยเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นมีได้หลายกรณีเช่น ผู้ใช้คลิกปุ่ม กด แป้นคีย์บอร์ด หรือป้อนข้อมูลลงในกล่องรับข้อความ เป็นต้น

         ฟอร์ม (Form) คือ หน้าต่าง (windows) ที่ใช้แสดงผล ภายในฟอร์มสามารถนําคอนโทรลต่างๆ มา วางบนฟอร์ม

         Object บนฟอร์มสามารถแบ่งย่อยได้เป็น 2 ประเภท คือ 
1. คอนโทรล (Control) เป็น Object ที่สามารถมองเห็นได้ทําหน้าที่ควบคุมการทํางานและติดต่อ กับผู้ใช้งาน เช่น TextBox ใช้รับข้อความ Label ใช้แสดงข้อความบนหน้าจอ Button ใช้เป็นปุ่มคําสั่ง เป็นต้น 

2. คอมโพเนนต์ (Component) เป็น Object ที่นํามาใช้ประกอบการสร้างแอพพลิเคชั่น แต่จะไม่ แสดงให้เห็นในขณะที่ Run (ทํางานอยู่เบื้องหลัง) เช่น Timer เป็นตัวจัดการเรื่องเวลา เป็นต้น


สิ่งที่ควรรู้ 
1. คุณสมบัติ (Properties) คือ ใช้กําหนดคุณลักษณะต่างๆ ของฟอร์มและคอนโทรล เช่น กําหนดชื่อ กําหนดตัวอักษร เป็นต้น

2. เมธอด (Method) คือ เป็นการสั่งให้ฟอร์มและคอนโทรลทํางานตามคําสั่ง 

3. อีเว้นต์ (Event) คือ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบนฟอร์มหรือคอนโทรลเพื่อสั่งให้เมธอดทํางาน หรือ ตอบสนอง เช่น อีเว้นต์คลิก เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อมีการคลิกที่ปุ่ม 

ขั้นตอนการพัฒนาโปรแกรม 
1. ออกแบบหน้าจอโปรแกรม ผู้พัฒนาโปรแกรมต้องรวบรวมข้อมูลจากผู้ใช้งานว่าจะนําไปใช้ประโยชน์ อะไร หรือต้องการให้โปรแกรมทําอะไรได้บ้าง จะมีหน้าจออย่างไร โดยนําคอนโทรลต่างๆ มาวางบน ฟอร์ม และปรับตําแหน่ง หรือขนาดตามต้องการ

 2. กําหนดคุณสมบัติ (Properties) ต่างๆ ของฟอร์ม และอ็อบเจคต่างๆ เช่น Name, text, font, color เป็นต้น 

3. เขียนโปรแกรมเพื่อควบคุมการทํางานในหน้าต่าง code editor เพื่อรองรับเหตุการณ์ต่างๆ ของแต่ละ   อ็อบเจค 

4. รันโปรแกรม (กดปุ่ม F5) เพื่อทดสอบว่า โปรแกรมสามารถทํางานได้ถูกต้องหรือไม่ หากมีข้อผิดพลาด ให้ค้นหาข้อผิดพลาดแล้วทําการแก้ไขให้ถูกต้อง 

5. บันทึกและทําการคอมไพล์โปรเจ็คให้เป็นไฟล์โปรแกรมที่สามารถรันได้




ความคิดเห็น